เมื่อวันหยุดเสาร์อาทิตย์มาถึงพ่อแม่หลายคนคงกำลังมองหากิจกรรมที่จะพาลูกน้อยไปเล่นสนุก แต่จะให้พาลูกไปเที่ยวตามสนามเด็กเล่นใกล้บ้านก็คงดูธรรมดาเกินไป แถมช่วงนี้สภาพอากาศก็ไม่ค่อยจะดี มีปัญหาเรื่องหมอกควันกันทุกวันจนไม่เหมาะกับการพาเด็กไปทำกิจกรรมนอกสถานที่ เมื่อเป็นแบบนี้พ่อแม่อย่างเราควรพาลูกไปทำกิจกรรมอะไรที่จะมอบทั้งความสนุกและเสริมสร้างพัฒนาการให้กับเขา วันนี้เราอยากจะชวนพ่อแม่จูงมือลูกน้อยมาลองเข้าโรงเรียนสอนทำอาหารสำหรับเด็ก นอกจากจะได้เรียนรู้วิธีการทำอาหารแล้ว ลูกน้อยของเรายังจะได้ทักษะอื่นๆ ติดตัวกลับบ้านไปด้วย ว่าแล้วก็ขอพูดถึง 3 ทักษะดีๆ ที่เด็กจะได้จากการพาเข้าคอร์สเรียนสอนทำอาหารสำหรับเด็ก จะมีอะไรบ้างไปติดตามกันได้เลย
การทำอาหารช่วยพัฒนาสมองทั้งสองซีก วิธีที่ดีที่สุดในการเสริมสร้างพัฒนาการให้กับเด็กในวัยเจริญเติบโตคือการเรียนรู้ผ่านการเล่น (Play & Learn) ซึ่งการพาลูกเข้าโรงเรียนสอนทำอาหารสำหรับเด็ก ลูกน้อยจะได้พัฒนาสมองทั้งซีกขวา (ความคิดสร้างสรรค์) และซีกซ้าย(การคิดวิเคราะห์) ผ่านการลงมือทำทุกอย่างตั้งแต่การเตรียมส่วนผสมไปจนถึงการทำอาหารและปิดท้ายด้วยการลองชิมฝีมือตัวเอง ซึ่งประโยชน์ที่ลูกจะได้รับล้วนแฝงอยู่ในทุกขั้นตอนการเรียนไม่ว่าจะเป็นความรู้เรื่องคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์จากการวัด ชั่ง ตวง ส่วนผสม ความรู้รอบตัวเกี่ยวกับข้อดีของการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เสริมความรู้เรื่องผักแต่ละชนิด สนุกกับการทำอาหารด้วยสองมือน้อยๆ และปลดปล่อยจินตนาการด้วยการตกแต่งหน้าตาเมนูอาหาร
คการพาลูกเข้าโรงเรียนสอนทำอาหารสำหรับเด็ก อาจจะทำให้พ่อแม่ค้นพบความชื่นชอบที่ซ่อนอยู่ในตัวลูกที่ไม่เคยถูกเปิดเผยที่ไหนมาก่อน ปกติแล้วพ่อแม่อย่างเรามักไม่กล้าลองให้ลูกทำอาหารเองตั้งแต่ยังเล็ก เพราะกล้ามเนื้อของลูกน้อยยังไม่แข็งแรงพอกับการจับอุปกรณ์เครื่องครัวที่แสนอันตรายอย่างมีดหรือกระทะ ดังนั้นการเปิดโอกาสให้เด็กได้ทำกิจกรรมใหม่ๆ ที่ไม่เคยทำมาก่อนตอนอยู่บ้านภายใต้การดูแลของครูผู้เชี่ยวชาญอย่างใกล้ชิด คงจะทำให้เด็กรู้สึกตื่นเต้นไม่น้อยและดีไม่ดีอาจจะโชว์พรสวรรค์ที่ทำให้บรรดาพ่อแม่ต้องตะลึงจนอ้าปากค้าง
เรียนรู้การเข้าสังคมพร้อมกระชับความสัมพันธ์ระหว่างคนในครอบครัวให้แน่นแฟ้น นอกจากประโยช์ที่เด็กจะได้รับจากโรงเรียนสอนทำอาหารสำหรับเด็กในเรื่องของการพัฒนาสมองและการค้นพบตัวเองแล้ว อีกหนึ่งข้อดีที่เด็กจะได้เพิ่มเติมคือการฝึกเข้าสังคมกับเด็กรุ่นราวคราวเดียวกัน นับเป็นการเตรียมความพร้อมลูกให้คุ้นเคยกับการใช้ชีวิตร่วมกับคนจำนวนมากที่ไม่รู้จักก่อนเข้าโรงเรียน เด็กจะมีความเห็นอกเห็นใจ พูดขอบคุณและขอโทษเป็น ปกติแล้วโรงเรียนสอนทำอาหารสำหรับเด็กมักเปิดโอกาสให้พ่อแม่ได้ร่วมลงมือทำอาหารร่วมกันกับลูกด้วย ซึ่งกิจกรรมรูปแบบนี้จะช่วยกระชับความสัมพันธ์ระหว่างคุณพ่อคุณแม่และลูกรักให้แน่นแฟ้นมากขึ้น